20743 จำนวนผู้เข้าชม |
ซื้อจักรยานไฟฟ้ามาทั้งที เราก็ควรจะทำให้จักรยานไฟฟ้าของเราสามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องนาน ๆ กันทุกคนนะคะ ซึ่งสิ่งสำคัญในการทำให้จักรยานไฟฟ้าของเรามีสภาพที่พร้อมขับขี่อยู่ตลอดการใช้งาน และไม่มีปัญหาติดขัดอะไร ก็คือการดูแลจักรยานไฟฟ้าของเราให้ดี ๆ นี่แหละค่าา^^ สำหรับคนที่ยังไม่ทราบว่าต้องดูแลรถไฟฟ้าของเรายังไงบ้าง วันนี้สบายรถไฟฟ้า (Sabai Ebike) จะมาบอกเคล็ดลับดี ๆ ให้เพื่อน ๆ อ่านกันค่ะ ใครอยากให้จักรยานไฟฟ้าใช้ได้นาน ตามอายุการใช้งานจริง และมีปัญหาต่าง ๆ น้อย ห้ามพลาดบทความนี้!!
โดยวิธีดูแลจักรยานไฟฟ้าที่ทางสบายรถไฟฟ้าได้เอามาแชร์นี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ นะคะ นั่นก็คือการดูแลในส่วนของแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ว่าต้องทำยังไงไม่ให้แบตเสื่อมสภาพเร็ว, การใช้งาน-การขับขี่รถจักรยานไฟฟ้าที่เหมาะสม และรวมถึงการหมั่นเช็คทำความสะอาดรถไฟฟ้าด้วยเช่นกันค่ะ
ข้อดีของการใช้รถจักรยานไฟฟ้า
หลังจากที่ใช้จักรยานไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเสร็จแล้ว หลาย ๆ คนคงอยากจะชาร์จแบตเตอรี่ทันที แต่ว่าการที่เราชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้าทันทีหลังจากที่ใช้งานเสร็จนั้น อาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีในอนาคตได้นะคะ
เนื่องจากรถจักรยานไฟฟ้าที่เพิ่งใช้งานเสร็จใหม่ ๆ นั้น นอกจากตัวเครื่องจะร้อนแล้ว แบตเตอรี่ก็ยังคงร้อนอยู่เช่นกัน การชาร์จไฟเข้าไปในทันทีจะส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมง่ายยิ่งขึ้น (ยิ่งทำแบบนี้บ่อยเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการใช้งานของแบตเตอรี่ก็จะน้อยลงเท่านั้นค่ะ)
ดังนั้นสบายรถไฟฟ้าขอแนะนำให้เพื่อน ๆ จอดรถไฟฟ้าทิ้งไว้ก่อนประมาณ 30 นาที หรืออย่างน้อย 15 นาทีนะคะ แล้วค่อยเริ่มการชาร์จแบต เพื่อเพิ่มพลังให้จักรยานไฟฟ้าของเราค่ะ
ตั้งแต่เปิดสวิตช์เครื่องของรถจักรยานไฟฟ้า แบตเตอรี่ก็จะเริ่มทำงานแล้วค่ะ ยิ่งเราใช้งานนานมากเท่าไหร่ ส่งผลให้แบตเตอรี่มีพลังงานน้อยลงเท่านั้น ไม่เพียงเท่านี้นะคะ แบตเตอรี่ก็จะทำงานหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเราใช้รถสามล้อไฟฟ้าจนแบตเตอรี่เหลือน้อยมาก ๆ หรือต่ำกว่า 30% อาจจะทำให้แบตเสื่อมสภาพการใช้งานไวขึ้นได้เหมือนกันค่ะ (เปรียบเสมือนกับพฤติกรรมการใช้มือถือจนแบตแดง หรือเหลือน้อยต่ำกว่า 20% แล้วค่อยชาร์จ ซึ่งจะทำให้สุขภาพของแบตเตอรี่แย่ลงทุกวัน ๆ เลยค่ะ)
ดังนั้น หากเป็นไปได้ไม่ควรปล่อยให้แบตเหลือน้อยกว่า 30% หรือจะชาร์จก็ต่อเมื่อแบตหมดเท่านั้น แนะนำในชาร์จแบตเตอรี่ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ของแต่ละคัน (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 4-6 ชั่วโมง) และไม่ควรทิ้งไว้นานมากเกินไปค่ะ เพราะจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ได้เช่นกัน
แบตเตอรี่แต่ละตัวจะเหมาะกับรถไฟฟ้าไม่เหมือนกัน เมื่อใช้รถจักรยานไฟฟ้าไปได้ระยะหนึ่งก็จะถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว (ใช้ได้นานกี่ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและตัวแบตเตอรี่ประกอบกันนะคะ) หากไม่ได้ไปเปลี่ยนที่ร้านขายรถไฟฟ้าที่เพื่อน ๆ ซื้อมา แนะนำให้ดูขณะที่ช่างข้างนอกเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ด้วยนะคะ โดยดูว่าเป็นรุ่นเดียวกันไหม มีลักษณะเดียวกันไหม และกำลังวัตต์เท่ากันรึเปล่า?
ทั้งนี้ ช่างอาจจะแนะนำแบตเตอรี่รุ่นอื่น ๆ ได้ เพื่อน ๆ ลองพิจารณาตามความเหมาะสม หรือตรวจเช็คกับร้านรถไฟฟ้าสักนิดนะคะ ^^
สบายรถไฟฟ้าขอแนะนำให้เพื่อน ๆ จอดรถจักรยานไฟฟ้าไว้ในที่ร่มค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวรถจักรยานไฟฟ้าได้รับความร้อนสูงเกินไป เนื่องจากความร้อนก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เหมือนกันค่ะ
กรณีตัวอย่าง เช่น การจอดรถไฟฟ้า 3 ล้อ ไว้กลางแจ้งเป็นเวลานาน ทำให้ตัวรถและตัวแบตเตอรี่ซึมซับความร้อนในระดับนึงแล้ว พอเรานำรถจักรยานไฟฟ้าไปใช้งานต่อ ก็จะทำให้ตัวรถและตัวแบตเตอรี่มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นไปอีกค่ะ
ถ้าเลือกใช้รถจักรยานไฟฟ้าคุณภาพดีก็อาจจะมีปัญหาในอนาคต (แบตเสื่อมง่าย) ได้ แต่ถ้าใช้รถจักรยานไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะเกิดอันตรายขึ้นมาได้ค่ะ
รถจักรยานไฟฟ้าแต่ละคัน จะถูกออกแบบการวางระดับของมอเตอร์หรือแบตเตอรี่ไว้ต่างกันค่ะ แม้รถไฟฟ้า 2 ล้อจะสามารถขับลุยน้ำที่ท่วมขังหลังฝนตกได้ แต่เราก็ต้องมาดูระดับของน้ำที่ท่วมขังด้วยนะคะ ว่ามันสูงมากแค่ไหน
ถ้าเป็นเพียงน้ำขังเล็ก ๆ ก็อาจจะไม่ได้สงผลอะไรต่อรถจักรยานไฟฟ้าของเราค่ะ แต่ถ้าเราดันไปเจอน้ำแอ่งใหญ่ ๆ สูงเลยครึ่งล้อรถ หรือมีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าไปข้างในตัวรถ อันนี้เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงนะคะ เพราะอาจจะทำให้มอเตอร์, แบตเตอรี่ หรือตัวรถเองเสียหายได้ค่ะ
เราจะเห็นได้ว่ารถจักรยานไฟฟ้าแต่ละคันมีขนาดของตัวรถที่ไม่เท่ากัน และมีการระบุน้ำหนักที่สามารถขนส่งได้ไม่เหมือนกัน (น้ำหนักของตัวคนและสิ่งของรวมกัน) เราควรทำตามคำแนะนำนั้นอย่างเคร่งครัดนะคะ เพราะถ้าเราฝืนขนของหนักเกินกำลังที่รถจักรยานไฟฟ้าสามารถรองรับได้ ตรงนี้อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้อายุการใช้งานของรถจักรยานไฟฟ้าของเราสั้นลงค่ะ
การทำความสะอาดรถจักรยานไฟฟ้าไม่ต้องอะไรมากมายนะคะ เพียงแค่เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ฝุ่นเกาะกับตัวรถมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่ค่อยได้ใช้จักรยานไฟฟ้ามากเท่าไหร่นัก (ถ้าอยากล้างจักรยานไฟฟ้าแบบจัดเต็ม ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หรือทำมาเพื่อรถไฟฟ้าเท่านั้นนะคะ)
ซึ่งในขณะที่เช็ดทำความสะอาดรถจักรยานไฟฟ้า ให้เรามองสังเกตตัวรถไว้ด้วยนะคะ ว่ามีอะไรที่ผิดปกติไปจากเดิมไหม เพราะถ้ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาจริง ๆ เราจะได้รับรู้ได้ทัน และสามารถแก้ไขปัญหาก่อนที่มันจะลุกลามไปมากกว่านี้ได้ค่ะ
เรื่องของการตรวจเช็คความผิดปกติของรถต่าง ๆ นั้น อาจจะดูยากสักนิดนึงนะคะสำหรับบางคน สบายรถไฟฟ้าแนะนำให้ลองเช็คด้วยตัวเองก่อนนะคะ ในเบื้องต้นอาจจะลองสังเกตว่าระบบต่าง ๆ ทำงายได้ดีไหม มีอะไรติดขัดรึเปล่า?
ทั้งระบบไฟฟ้า, การทำงานของแบตเตอรี่, ระบบป้องกันการขโมย, ระบบเบรค, มอเตอร์ และรวมไปถึงยางรถด้วยค่ะ นอกจากจะเช็คด้วยตัวเองได้แล้ว หากมีเวลาว่างลองหมั่นนำรถจักรยานไฟฟ้าเข้าไปเช็คที่ศูนย์ หรือร้านขายรถไฟฟ้าที่ซื้อมาได้เลยค่ะ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ซื้อจักรยานไฟฟ้ามาแล้ว ไม่อยากให้รถของเรามีปัญหาอะไร สบายรถไฟฟ้า (Sabai Ebike) ก็ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ดูแลรถจักรยานไฟฟ้าตามคำแนะนำในบทความนี้ได้เลยค่ะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ไม่รู้ว่าจะซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? หรือต้องการเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดี ๆ สักคัน ทัก LINE : @sabai-ebike เข้ามาได้เลยนะคะ
เราเป็นร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยรายใหญ่ จำหน่ายรถไฟฟ้าทุกชนิด มีหน้าร้านให้เลือกชมรถไฟฟ้า กว่า 30 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนำเข้าและผลิตรถไฟฟ้าเองในประเทศไทย ส่งตรงจากโรงงานโดยไม่ผ่านคนกลาง ในราคาย่อมเยาแต่คุณภาพดีเยี่ยม และมีการดูแลหลังการขายอย่างเต็มที่
เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 - 18.00 น.
ติดต่อฝ่ายขาย : 092-333-0511 ถึง 30
LINE : @sabai-ebike หรือ https://lin.ee/tTtSd6s
Facebook : SabaieBike สบายรถไฟฟ้า
Instagram : Sabai Ebike
Youtube Channel : Sabai Ebike
Email : info@sabai-bike.com
- สาขาชะอำ (เพชรบุรี) : 092-333-0511
- สาขาพิษณุโลก : 092-333-0512
- สาขานครสวรรค์ : 092-333-0513
- สาขาสุราษฎร์ธานี : 092-333-0514
- สาขาขอนแก่น : 092-333-0515
- สาขาลำปาง : 092-333-0516
- สาขาโคราช : 092-333-0517
- สาขาศรีสะเกษ : 092-333-0518
- สาขาสระบุรี : 092-333-0519
- สาขาบุรีรัมย์ 092-333-0520
- สาขาอุบลราชธานี : 092-333-0521
- สาขาอุดรธานี : 092-333-0522
- สาขาเชียงราย : 092-333-0524
- สาขาหนองบัวลำภู : 092-333-0525
- สาขาลำพูน : 092-333-0526
- สาขาเลย : 092-333-0527
- สาขาจันทบุรี : 092-333-0528
- สาขาระยอง : 092-333-0530
- สาขาสุรินทร์ : 092-333-0531
- สาขาเชียงใหม่ : 092-333-0523 (กำลังสร้าง)
- สาขาชัยภูมิ : 092-333-0533 (กำลังสร้าง)
- สาขามหาสารคาม : 092-333-0535 (กำลังสร้าง)
- สาขากาฬสินธุ์ : 092-333-0536 (กำลังสร้าง)
- สาขาร้อยเอ็ด : 092-333-0537 (กำลังสร้าง)
- สาขายโสธร : 092-333-0539 (กำลังสร้าง)
- สาขามุกดาหาร : 092-333-0540 (กำลังสร้าง)
- สาขาสกลนคร : 092-333-0541 (กำลังสร้าง)
- สาขานครพนม : 092-333-0542 (กำลังสร้าง)
- สาขาบึงกาฬ : 092-333-0543 (กำลังสร้าง)
- สาขาหล่มสัก : 092-333-0544 (กำลังสร้าง)